https://www.dailynews.co.th/news/133799/
“หมอสุภัทร์” โพสต์สตอรี่เฟซบุ๊กเล่าเรื่องระหว่างปฏิบัติการตรวจสุขภาพเชิงรุกให้ประชาชนในกทม.และปริมณฑล ทีมแพทย์ชนบท คุณแม่พบติดเชื้อโควิด หลานวัย 4 ขวบ ทำให้อาโกรับเชื้อไป ดูแลหลาน

เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ดร.สุพัทธ์ หสุวนากิจ ผอ.รพ. ประธานชมรมแพทย์ชนบท ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยเล่าเรื่องระหว่างปฏิบัติการกู้ภัยกรุงเทพฯ โควิด-19 ลงพื้นที่ตรวจค้นประชาชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยระบุว่า
แม่ต้องรอด
เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว ฉันและทีมงานออกไปปฏิบัติการที่ อ.สามพราน จ.นครปฐม พบแม่วัย 84 ปี ที่มาตรวจด้วยไม้เท้า เอ็มม่าดูสุขภาพดีตามวัย แต่ผลจากการทดสอบอย่างรวดเร็ว 2 คะแนนเป็นบวก มาม่าติดโควิด. เรากลับไปทำ rtPCR อีกครั้งสำหรับ Emma และกำหนดฟาวิพิราเวียร์ ออกซิเจนในเลือด 96% ตามที่ญาติคุยและผมไปดูอาการที่บ้าน มีเรื่องเศร้าน่าสนใจมาก ที่บ้านอาม่าเป็นบ้านใจดี ห้องเล็กหลังบ้าน 5, 6 คน. มีหลานใส่เสื้อเบอร์ 10 ติดโควิดแล้ว กักตัวและรับการรักษาที่โรงพยาบาลสนามโดยสมบูรณ์ ที่บ้านฉันพบเด็กชายอายุสี่ขวบอีกคนที่ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อโคโรนาไวรัสด้วย แต่กับอาโก อายุ 60 ปี ที่ดูแลเด็กน้อย ผลงานออกมาเป็นลบ และอีก 2 คนก็ออกไปทำงานข้างนอก
ปัญหาคือใครจะดูแลเอ็มม่า? แม่ต้องการใครสักคนที่จะพาเธอไปห้องน้ำเพื่อดูแลทุกอย่าง โชคดีหลานเสื้อหมายเลข 10 ติดเชื้อแล้ว จึงพร้อมจะดูแล ใครจะดูแลเด็กน้อย คำตอบคือ ที่ผ่านมา แต่ Ago ยังคงเป็นลบ จากการสนทนาในครอบครัว สรุปคือ ที่ผ่านมา คงต้องยอมรับว่าติดเชื้อโควิด เพื่อดูแลทุกคนในครอบครัวที่มีเสื้อหลานเบอร์ 10
นี่คือความจริงของการติดเชื้อโควิดในครัวเรือน แม่เป็นห่วงมาก ยังไม่มีเตียงในโรงพยาบาล คุณต้องนอนและกินยา Favi เองที่บ้านก่อน อาโกะยิ่งกังวล เขาอายุ 60 ปีแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่ทันได้จับก็ตาม แต่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดคงจะหลีกเลี่ยงได้ยาก และอโกด้าจะโดนคัดกรองและรับฟาวี่ในอนาคตหรือไม่? ฉันหวังว่า Emma Ako จะปลอดภัย ทีมงาน รพ. สตรอเบอรี่ในพื้นที่สัญญาว่าจะดูแลพวกเขาอย่างดี”
https://www.facebook.com/supathasuwannakit/posts/1031457334059727
‘พ่อค้าอาวุธไทย’ เกี่ยวเหตุ 2 เมียนมาร์จ้างทูตลอบสังหารชู 3 นิ้วกลางให้ UN
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/953411
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวว่า ชาวเมียนมาร์ 2 คนถูกจับในรัฐนิวยอร์ก ฐานสมคบคิดกับพ่อค้าอาวุธในไทยเพื่อขายอาวุธให้กองทัพ
เมียนมาร์สังหารหรือทำร้ายเอกอัครราชทูตเมียนมาร์ประจำสหประชาชาติ
ตามที่นายโช โม ตุน เอกอัครราชทูตเมียนมาร์ประจำสหประชาชาติ ผู้แทนรัฐบาลพลเรือนคนหนึ่งซึ่งถูกทหารเข้ายึดครองเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ บอกกับรอยเตอร์เมื่อวันพุธว่า เขาตกเป็นเป้าหมายของความมุ่งร้าย ซึ่งทางการสหรัฐได้เพิ่มความปลอดภัย
ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ (6 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น สำนักงานอัยการเขตทางใต้ของนิวยอร์ก กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้จับกุมชาวเมียนมาร์ 2 คน คือ นาย…พโยเฮงตุ๊ด อายุ 28 ปี และ คุณ.เย่ เฮง ซอ เด็กอายุ 20 ปีรายนี้ถูกตั้งข้อหาสมรู้ร่วมคิดในการโจมตีและโจมตีเจ้าหน้าที่ต่างประเทศอย่างรุนแรง โทษสูงสุดคือจำคุก 5 ปี
ตามคำร้อง นาย.พโยเฮงตุ๊ด เขาบอกพนักงานสอบสวนที่สำนักงานสืบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (FBI) ว่าผู้ค้าอาวุธในประเทศไทยติดต่อเขาทางออนไลน์ เสนอเงินให้เขาเพื่อจ้างคนมาโจมตีเอกอัครราชทูตและบังคับให้เขาลาออก ถ้าเอกอัครราชทูตไม่ออกมา แสดงว่าท่านมร.พโยเฮงตุ๊ดและนายหน้าตกลงจะใช้แผนดัดแปลงรถเอกอัครราชทูตจนเกิดอุบัติเหตุ
นาย.เย่ เฮง ซอ จ้างโดยนายพโยเฮงตุ๊ด เขาได้รับเงินสองครั้งรวมเป็นเงิน 4,000 ดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม พโย เฮง ทุต ยังบอกกับเอฟบีไอ เขาจะได้รับเงินเพิ่มอีก 1,000 เหรียญหากงานสำเร็จ
ก่อนหน้านี้ อาสาสมัครความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ บอกกับเอฟบีไอเมื่อวันอังคารว่าพโยเฮงตุ๊ด บอกตัวเองเกี่ยวกับแผนการจ้างมือปืนเพื่อฆ่าหรือลอบสังหารเอกอัครราชทูตคนนี้
ในการร้องเรียน นาย.เย่ เฮง ซอ เขายอมรับว่าเขาโอนเงินให้ พโย เฮง ตุ๊ด ซึ่งปกติแล้วจะส่งเงินให้ผู้อื่นในนามของพ่อค้าอาวุธชาวไทย และล่าสุด นาย.พโยเฮงตุ๊ดได้จองตั๋วไปสหรัฐอเมริกาสำหรับอีกสองคนตามคำร้องขอของพ่อค้าอาวุธ
นายเดอร์มอทเชีย คณะกรรมการตำรวจนิวยอร์กกล่าวว่าจำเลยได้ข้ามพรมแดนไปยังแผนการใช้ความรุนแรงต่อผู้นำต่างชาติในแผ่นดินสหรัฐ
นายไซด์โช โม ตุนเขายังไม่ได้แสดงความคิดเห็นในคดีนี้ เขาถูกไล่ออกโดยรัฐบาลทหารเมียนมาร์ในเดือนกุมภาพันธ์ แต่ยังคงเป็นเอกอัครราชทูตเมียนมาร์ประจำสหประชาชาติ เพราะสหประชาชาติไม่ยอมรับรัฐบาลทหาร
เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม เขาได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศที่คุกคามเขาและเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้เพิ่มความปลอดภัย
ตามคำฟ้อง พิวไห่ไท่บอกกับเจ้าหน้าที่สอบสวนของ FBI ว่าผู้ค้าอาวุธในประเทศไทยติดต่อเขาทางออนไลน์ และเสนอเงินจ้างเขาโจมตีโช โม ตุน และบังคับให้เขาลาออกจากตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหประชาชาติ
แต่ถ้าถูกโจมตี จ่อ โม ตัน ก็ยังไม่ยอมลาออก คนขายอาวุธเสนอตัวว่าจะฆ่าเขา พิวไห่ไท่ให้การว่าตนและพ่อค้าตกลงจะใช้แผนดัดแปลงรถของเอกอัครราชทูตเมียนมาร์ให้เกิดอุบัติเหตุ
เขาพูดว่า เฮ้ ไฮซอ ได้ติดต่อขอโอนค่าจ้างมาแล้ว 2 ครั้ง รวมเป็นเงิน 4,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 134,000 บาท) ตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม และหากแผนสำเร็จ ท่านจะได้รับเงินเพิ่มอีก 1,000 เหรียญ (ประมาณ 33,000 บาท)
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอาสาสมัครในภารกิจสหประชาชาติพม่าบอกกับเอฟบีไอ: พิวไห่ ได้บอกแผนการจ้างนักฆ่าเพื่อฆ่าหรือทำร้ายเอกอัครราชทูตเมียนมาร์
ด้านข้าง เฮ้ ไห่ ยอมรับว่าโอนเงินแล้ว พิวไห่ อันที่จริงเขามีหน้าที่ส่งหรือโอนเงินให้ผู้อื่นในนามของผู้ค้าอาวุธในประเทศไทยเป็นประจำ และเพิ่งจองตั๋วไปสหรัฐฯ ให้กับอีกสองคนที่ได้รับการว่าจ้างจากคำสั่งของพ่อค้าอาวุธ
ไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมว่าการสอบสวนครั้งต่อไปจะเป็นอย่างไร? และผู้ค้าอาวุธในประเทศไทยที่ได้รับการว่าจ้างให้ทำการลอบสังหารหรือลอบสังหาร โช โม ตุน ไคร
เรียบเรียงจาก Reuters
อดีตครูเครียด ตรวจโควิด 2 บรรทัด ก่อนดื่มเหล้าดับปริศนา
https://www.dailynews.co.th/news/133685/
ครูข้าราชการวัย 65 ปี วัย 65 ปี เครียดกับการดื่มแอลกอฮอล์ หลังพบชุดตรวจแอนติเจน 2 ชุด ในขณะที่วัดในจังหวัดสุรินทร์มีเมรุเผาศพบางส่วน พบเรียกค่าทำศพ covid-19 สูง 30,000 บาท
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ศูนย์วิทยุกู้ภัยสุรินทร์ ได้รับพลเมืองดีว่า มีผู้เสียชีวิตในบ้านพัก บริเวณ อ.เมือง จ.สุรินทร์ จึงได้ประสานงานกับ พ.ต.ท.เอกรัตน์ ชัยพร ร้อยเวน สน.เมืองสุรินทร์ พร้อมด้วย นพ.สุพินีณัฐ ยากุล ฟอริเวช รพ.สุรินทร์ และอาสาสมัครกู้ภัยสุรินทร์ เข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนแถวเดียวกัน 3 ห้อง พบลูกสาวและภริยาของผู้ตายยืนรอเจ้าหน้าที่ด้วยความเศร้าโศกและน้ำตา เจ้าหน้าที่กู้ภัยสุรินทร์ นำกำลังด้วยอุปกรณ์ ยาฆ่าเชื้อ และชุดป้องกันโควิด สอบร่างอดีตข้าราชการครูเกษียณอายุ 65 ปี ในกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 นอนตายอยู่ในบ้าน
จากการสอบสวน ลูกสาวของผู้ตายทราบว่าพ่อป่วยเป็นไข้ ปวดหัว และไอมา 5 วันแล้ว หลังจากรับประทานยาพาราเซตามอล อาการของเขาก็ดูดีขึ้นจนถึงประมาณ 3.10 น. พ่อบ่นว่าหายใจไม่ออกและหยุดนิ่ง เขารีบไปช่วยปั๊มหัวใจ แต่เขาไม่สามารถช่วยชีวิตพ่อได้ ก่อนหน้านี้ พ่อของฉันป่วย เขาจึงซื้อชุดทดสอบแอนติเจนเพื่อตรวจ ผลตรวจจางไป 2 บรรทัด พ่อเลยเครียดก่อนซื้อเหล้ามาดื่มจนเกิดเรื่อง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยสุรินทร์จึงนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากบ้านพัก เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 จาก รพ.สุรินทร์ อย่างทั่วถึงอีกครั้ง พร้อมกันนี้ยังมีรายงานอีกว่า มีวัดที่มีเมรุในบริเวณพื้นที่ ญาติสุรินทร์ ทางวัดได้ขอเงินค่าฌาปนกิจผู้ติดเชื้อโควิด-19 ด้วย มูลค่ากว่า 30,000 บาท
.