in

[CR] [Review] แปลรักฉันด้วยใจเธอ Part 2 (I Promised You the Moon) (2021)


[ระวัง SPOIL มีการเปิดเผยประเด็นสำคัญของซีรี่ส์]

สานต่อความสำเร็จในมือของผู้กำกับและนักเขียนบทใหม่ “Translate Love Me With Your Heart, Part 2” เต็มไปด้วยแรงกดดันจากการคาดหวังตั้งแต่มีการประกาศการผลิต และพอดูได้จริง ๆ มันยากเกินไปที่จะไม่เปรียบเทียบกับภาคแรกที่ฉันดูเมื่อปีที่แล้ว สำหรับเราที่ต่างกันมากคือจังหวะของเรื่องที่ผู้กำกับ “มีน ทศพร ทองทอง” เลือกใช้บอกเวลาตอนเรียนมหาลัย 4 ปี กับ 5 EPs ที่ทั้ง “เต้” และ “โอ้เอ้” โตขึ้น ปีนขึ้นไปทั้งในแง่ของการค้นหาความฝันปรับบุคลิกและความสัมพันธ์ของพวกเขาที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปซึ่งเมื่อเรื่องราวถูกบังคับให้เล่าเรื่องข้ามปีแล้วปีเล่าจึงไม่มาบดขยี้ฉากหรืออารมณ์มาก (จนเนื้อที่ของตัวละครลดลงด้วย แม้ว่าจะมีส่วนให้ตัวละครกอดเข่าและนอนคนเดียว แต่ก็ไม่มีฉากนอนบนพื้นกลิ้งกลิ่นมะพร้าวไปพร้อม ๆ กัน ปล่อยให้พื้นที่ว่างให้เราได้ปะติดปะต่อพื้นที่ในจินตนาการที่ยังไม่เคยมีใครบอกเล่าในช่วงหลายปีของตัวละคร ซึ่งพอปรับมา 2-3 EP แล้ว เราก็พอใจกับมัน แต่มาชอบมันมากตอนที่เป็น EP 4 – 5.

.
เราไม่มีปัญหาในการที่ตัวละครต้องเผชิญกับปัญหาการนอกใจ หรือรู้สึกว่าความสัมพันธ์ไม่เหมือนเดิม เพราะมันสามารถเกิดขึ้นได้ในโลกแห่งความจริง และนำมันมาสู่ความเป็นจริง ชีวิตจริงยากกว่ามาก! และชั้นของปัญหาที่เกิดขึ้นในความสัมพันธ์ของ Tei กับ Oh Ye ในครั้งนี้ก็เต็มไปด้วยมิติที่ซับซ้อนเช่นกัน ตั้งแต่ความรู้สึก ทำไมแฟนเราถึงเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม? (ทั้งในด้านบุคลิกภาพ นิสัย เพื่อนฝูง หรือความฝันที่เปลี่ยนไป) ความรู้สึกเหงาและเศร้าเพราะการห่างไกล ความรู้สึกประหม่าเพราะได้ใกล้ชิดกับคนใหม่ที่ทำให้หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ รู้ความลับหรือจับใจผู้อื่น คนโกง. จนถึงความแตกสุดท้าย

.
อันที่จริงเมื่อฉันยังเป็นวัยรุ่น เรารักหนังรักอย่างคู่รักเลิกราและกลับมาคบกัน แต่เมื่อเราใช้มันในชีวิตจริง เราพบว่าถ้ามันได้ผล มันก็ใช้ได้ตั้งแต่แรกเริ่ม ไม่ต้องเสียเวลากลับมาคบกันอีก ให้เลิกรากับปัญหาเดิมๆ แต่สุดท้าย เราก็กลืนน้ำลายของตัวเองเข้าไป หลังจากเลิกรากับคนรักที่คบกันมาสิบปีเพราะจับได้ว่าเขานอกใจและจมอยู่กับความเศร้ามาเป็นเวลานาน เราพบว่าการให้โอกาสเขาอีกครั้งไม่ใช่แค่เพื่อตัวเองเท่านั้น แต่ยังให้โอกาสเราด้วยตัวเราเองด้วย โอกาสที่จะมีความสุขในชีวิตอีกครั้ง และเหมือนที่พี่เอ๋บอกเต เราไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่เราค่อยๆ แก้ปัญหาร่วมกันได้ดีขึ้น #ชีวิตเราเหมือนหนังใช่ไหม?

.
ชอบการแสดงของ “บูกิน-พุฒิพงศ์ อัสสราธนากุล” มากกว่าในภาคนี้ เมื่อตัวละครมีพื้นที่น้อย แต่สับสนในตัวเอง พอเห็นตัวละครต้นฉบับในเวอร์ชั่นโตแล้วจริงๆ และถึงแม้ว่าซีรีส์จะเล่าจากมุมมองของเต้เป็นหลัก แต่พี่พี – กฤษ อำนวยเดชากร ก็ทำให้ตัวละคร โอ เอ๋ ไม่ได้หายไปและโดดเด่นด้วยการแสดงที่ติดตาเรามาตลอด ปรากฏบนจอ เอาแค่ฉากเศร้า-ร้องไห้ พีพีไม่ได้เล่นด้วยความโศกเศร้าแบบเดียวกันเลย รักมัน!

.
อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่ซีรีส์นี้ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากตัวละครได้มากกว่าเดิม มันไม่คุ้มค่า. ก้อย-อรรถพล โภคินภากรณ์ ที่เข้าน้อยแต่มา! และมีเพียง “อ๊บนิธิ วิวัฒนวรางงค์” เท่านั้นที่แสดงให้เห็นศักยภาพของตัวเองอย่างชัดเจน มาพูดถึงตัวละครอ็อบ “ใจ” กันหน่อย เป็นอีกตัวละครที่ชอบมาก ในความเห็นแก่ตัวและทำทุกอย่างเพื่อผลงานของตัวเอง การแสดงของอ๊อบทำให้ตัวละครมีมนุษยธรรมที่ผู้ชมไม่สามารถเกลียดได้ และเป็นเรื่องดีมากที่เขาแสดงออกถึงแง่มุมนี้โดยไม่ต้องมีบทสนทนาใดๆ

.
ไม่เกี่ยวกับประเด็นวิทยาการสื่อสารหรือละครเวทีอะไร แต่ในประเด็นที่กำลังเติบโตที่เราทุกวันนี้ต่างจากตัวเองเมื่อ 5 ปีที่แล้วมาก โดยเฉพาะกับช่วงเวลาที่อยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยที่เราสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่จากสิ่งแวดล้อม เพื่อนฝูง การเรียน กิจกรรมต่างๆ จนกลายเป็นรากฐานพื้นฐานของการที่เราเป็นทุกวันนี้ การได้เห็นตัวละครค่อยๆ พบว่าตัวเองเป็นแบบนี้ มันทำให้ฉันคิดถึงตัวเองในวัยนั้นมาก

.
และเป็นเรื่องแปลกที่เราไม่คิดมากเกี่ยวกับความเป็นเกย์ของตัวละครและเนื้อเรื่อง นอกจากความจริงที่ว่า O Ao ถูกกล่าวหาว่าทำตัวเป็นผู้ชายแล้ว เขายังมีรูปร่างผอมเพรียวอีกด้วย และตอนที่เตต้องตัดสินใจลบรูปในไอจีเพราะกำลังจะเข้าวงการบันเทิงเท่านั้นแหละ เราว่ามันไม่เกี่ยวกับว่าคนตรงหน้าเราเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง เพราะเวิร์กช็อปของใจ เต้ทำได้ โดยไม่เอ่ยถึงเรื่องเพศเลย) ซึ่งทั้งดีและไม่ดี แค่หมายเหตุ ว่ามันต่างจากภาคแรกตรงที่ตัวละครเอาความเป็นเกย์มาเป็นปมหลักของเรื่อง

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่เพจ My life is like a movie.

ชื่อผลิตภัณฑ์: แปล รักฉันด้วยหัวใจ ตอนที่ 2 (ฉันสัญญาว่าดวงจันทร์)

คะแนน:










CR – Consumer Review : เธรดบทวิจารณ์นี้เป็นเธรด CR โดยเจ้าของกระทู้นี้

  • – ชำระค่าสินค้าเองหรือรับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • – ไม่ได้รับค่าจ้างและสวัสดิการใดๆ

.