in

ประกันชีวิต ลดหย่อนภาษี 2565 แบบออมทรัพย์ 10 ปี ตัวไหนดี ให้ผลตอบแทนสูง

ประกันชีวิต ลดหย่อนภาษี 2565 แบบออมทรัพย์ 10 ปี ตัวไหนดี ให้ผลตอบแทนสูง

          ประกันชีวิต ลดหย่อนภาษี 2565 ได้เท่าไหร่ แล้วถ้าอยากซื้อประกันออมทรัพย์ หรือสะสมทรัพย์ แบบคุ้มครอง 10 ปี จะเลือกตัวไหนดีนะ ?
          ประกันชีวิต เป็นตัวช่วยลดหย่อนภาษีที่หลายคนให้ความสนใจ โดยเฉพาะประกันออมทรัพย์ หรือประกันสะสมทรัพย์ ที่ได้ทั้งความคุ้มครองชีวิตพร้อมกับออมเงินไปในตัว คำถามก็คือ แล้วเราควรเลือกซื้อประกันออมทรัพย์ตัวไหนดี หรือมีเกณฑ์พิจารณาอย่างไรบ้าง ใครกำลังต้องการซื้อประกันออมทรัพย์ ลดหย่อนภาษี 2565 เรารวบรวมข้อมูลมาบอกแล้ว

ประกันชีวิตลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่

          หากพูดถึงประกันชีวิตที่ใช้ลดหย่อนภาษีได้ จะมีอยู่ 2 แบบ คือ

1. ประกันชีวิตแบบทั่วไป

          เช่น ประกันออมทรัพย์หรือสะสมทรัพย์, ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ, ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา, ประกันชีวิตควบการลงทุน สามารถใช้ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท กรณีซื้อประกันชีวิตให้คู่สมรสตามกฎหมายที่ไม่มีรายได้ จะหักลดหย่อนได้ 10,000 บาท

เงื่อนไขประกันชีวิตแบบทั่วไป

  • ต้องเป็นประกันชีวิตที่มีความคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
  • มีผลตอบแทนคืนไม่เกิน 20% ของเบี้ยสะสม (เงินปันผลหรือเบี้ยคืนรายปี)
  • ต้องเป็นกรมธรรม์ที่ซื้อจากบริษัทประกันชีวิตที่ดำเนินกิจการในไทย
  • หากเวนคืนกรมธรรม์ก่อนครบ 10 ปี ถือว่าผิดเงื่อนไข จะไม่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้

2. ประกันชีวิตแบบบำนาญ

          เป็นประกันชีวิตที่คุ้มครองรายได้หลังเกษียณ เพราะบริษัทจะจ่ายเงินคืนให้เราทุกปีจนเสียชีวิต หรือครบสัญญา สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 200,000 บาท แต่ในกรณีที่เราไม่ได้ทำประกันชีวิตแบบทั่วไปก็สามารถนำเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญไปใช้ลดหย่อนภาษีในส่วนของประกันชีวิตแบบทั่วไปให้ครบ 100,000 บาทก่อนได้ ส่วนที่เหลือก็ยังสามารถนำมาลดหย่อนโดยใช้สิทธิ์เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ เท่ากับว่าสามารถใช้ประกันชีวิตแบบบำนาญมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 300,000 บาท

เงื่อนไขประกันชีวิตแบบบำนาญ

  • ต้องเป็นประกันที่มีระยะเวลาเอาประกัน 10 ปีขึ้นไป
  • ต้องเป็นกรมธรรม์ที่ซื้อจากบริษัทประกันชีวิตที่ดำเนินกิจการในไทย
  • จ่ายผลตอบแทนให้ผู้เอาประกันตั้งแต่อายุ 55 ปี ต่อเนื่องไปจนถึงอายุ 85 ปี หรือมากกว่านั้น
  • เมื่อรวมค่าเบี้ยประกันที่จ่ายให้กับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือกองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน หรือกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) หรือกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) แล้ว ต้องไม่เกิน 500,000 บาท

ประกันออมทรัพย์ คืออะไร

ประกันชีวิต

          ประกันออมทรัพย์ หรือประกันสะสมทรัพย์ เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองชีวิต พร้อมออมเงินไปด้วยในตัว และสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีในแต่ละปีที่จ่ายเบี้ยประกันได้ ซึ่งประกันออมทรัพย์จะมีให้เลือกหลายระยะ ทั้งระยะสั้น ระยะยาว เช่น 10/5 (คือ ส่งเบี้ย 5 ปี คุ้มครอง 10 ปี), 25/15, 20/20, 16/8, 12/5, 3/1 ฯลฯ เมื่อครบกำหนดแล้วจะได้เงินก้อนคืนตามสัญญาพร้อมผลตอบแทนที่ระบุไว้ หรืออาจมีเงินคืนให้ระหว่างทาง เช่น ได้เงินทุกปี ปีละ 5% ของทุนประกัน

ข้อดีของประกันออมทรัพย์

  • สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุด 100,000 บาท
  • เป็นการสร้างวินัยการออมให้ตัวเอง เพราะต้องจ่ายเบี้ยประกันทุกปี และไม่สามารถถอนเงินออกจากกรมธรรม์ได้จนกว่าจะครบกำหนด
  • ได้รับเงินคืนเมื่อครบสัญญา โดยที่เราจะรู้อย่างชัดเจนตั้งแต่วันที่ทำประกันว่าประกันเล่มนั้นให้ผลตอบแทนเท่าไร แล้วจะได้รับเงินคืนเท่าไร 
  • กรณีที่เสียชีวิตระหว่างสัญญา บริษัทจะจ่ายสินไหมให้กับผู้รับผลประโยชน์ตามที่เราระบุชื่อไว้
  • สามารถทำได้ง่าย โดยไม่ต้องตอบคําถามสุขภาพและไม่ต้องตรวจสุขภาพ

ข้อจำกัดของประกันออมทรัพย์

  • มีความคุ้มครองที่ไม่สูงเมื่อเทียบประกันชีวิตประเภทอื่น ๆ เช่น ทุนประกัน (จำนวนเงินเอาประกันภัย) 100,000 บาท ก็อาจจะต้องจ่ายเบี้ย 50,000-100,000 บาท ในขณะที่ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ หากเลือกทุนประกัน 100,000 บาท อาจจ่ายเบี้ยแค่เพียงหลักพัน ดังนั้นประกันออมทรัพย์จึงไม่เหมาะกับการทำเพื่อเน้นความคุ้มครองชีวิต
  • ผลตอบแทนพอ ๆ กับเงินฝากประจำของธนาคาร คือราว ๆ 1-3% ต่อปี แต่ที่แตกต่างคือได้รับความคุ้มครองชีวิตและสิทธิ์ลดหย่อนภาษี
  • มีสภาพคล่องต่ำเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์การเงินอื่น ๆ เพราะไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ทันที และหากเวนคืนกรมธรรม์ก่อนครบสัญญา หรือส่งไม่ครบตามกำหนด จะมีโอกาสขาดทุนได้ด้วย
  • ประกันออมทรัพย์ระยะสั้นบางเล่มไม่สามารถซื้อความคุ้มครองสัญญาเพิ่มเติมได้ 

ประกันออมทรัพย์ ลดหย่อนภาษีต้องเลือกอย่างไร

          ก่อนจะทำประกันออมทรัพย์เพื่อลดหย่อนภาษีควรรู้อะไรบ้าง มาดูกันเพื่อประกอบการพิจารณา

  • เลือกระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป เช่น 10/5, 15/8, 20/10, 25/15 เป็นต้น หากมีระยะเวลาคุ้มครองสั้นกว่า 10 ปี เช่น 5/3, 3/1 จะไม่สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้
     
  • เลือกทุนประกันและจำนวนเบี้ยที่ต้องจ่าย โดยแต่ละบริษัทจะกำหนดทุนประกันขั้นต่ำไว้ ซึ่งทุนประกันที่เลือกจะส่งผลต่อจำนวนเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายด้วย หากเลือกทุนประกันสูง เราก็ต้องจ่ายเบี้ยประกันสูงตาม
     
  • เลือกระยะเวลาจ่ายเบี้ยที่สอดคล้องกับความสามารถในการชำระเบี้ยของตัวเอง เช่น ข้าราชการ หรือคนที่ทำงานในบริษัทที่มีความมั่นคง สามารถเลือกแบบที่จ่ายเบี้ยระยะยาวได้ แต่หากเป็นฟรีแลนซ์ ค้าขาย ประกอบอาชีพที่มีรายได้ไม่แน่นอน อาจเลือกแบบที่จ่ายเบี้ยระยะสั้นลงมา เช่น 10/1 คือ ส่งเบี้ยปีเดียวจบ เพราะหากเลือกส่งเบี้ยระยะยาว เช่น 25/15 แล้วเกิดตกงาน หรือธุรกิจติดขัด ต้องหยุดส่ง จะทำให้ขาดประกัน และได้รับเงินคืนไม่เต็มจำนวน อย่างไรก็ตาม ตรงนี้ก็ต้องดูด้วยว่าเราสามารถจ่ายค่าเบี้ยไหวหรือไม่ เนื่องจากยิ่งจ่ายเบี้ยสั้นเท่าไร ค่าเบี้ยก็จะสูง แต่การจ่ายเบี้ยยาว ค่าเบี้ยต่อปีจะถูกกว่า
     
  • เลือกระยะเวลาคุ้มครองที่สอดคล้องกับเป้าหมายของตัวเอง เช่น ถ้ามีภาระหนี้สินระยะยาวอย่างการผ่อนบ้าน หรือต้องเลี้ยงดูลูก ควรเลือกความคุ้มครองยาว ๆ เพื่อจะได้มั่นใจว่าหากเราเสียชีวิตไปในระหว่างนี้ ลูกจะได้รับผลประโยชน์ หรือมีเงินไปใช้ชำระหนี้สินได้
     
  • เปรียบเทียบผลตอบแทนที่ได้รับเมื่อครบสัญญา โดยพิจารณาอัตราผลตอบแทนภายใน หรือ IRR (Internal Rate of Return) ซึ่งหากค่า IRR สูง แสดงว่าประกันเล่มนี้ให้ผลตอบแทนที่สูง
     
  • พิจารณาเรื่องเงินคืนระหว่างปี เช่น บางเล่มอาจมีเงินคืนให้ทุกปี ปีละ 1% หรือคืนให้ทุก 2 ปี ปีละ 5% ตรงนี้ลองคำนวณดูว่าเราต้องการเงินคืนระหว่างปีเพื่อนำมาใช้จ่ายมากน้อยแค่ไหน หรือบางเล่มอาจไม่มีเงินคืนให้เลย ซึ่งก็มักจะได้ผลตอบแทนดีกว่าเล่มที่มีเงินคืน 
     
  • พิจารณาความคุ้มครองชีวิตที่ได้รับต่อทุนประกัน เช่น กรณีเสียชีวิตปีที่ 1 จะได้รับความคุ้มครอง 110% กรณีเสียชีวิตปีที่ 5 เป็นต้นไป จะได้รับความคุ้มครอง 550% ของทุนประกัน เป็นต้น
     
  • เลือกบริษัทประกันที่มีความมั่นคง เนื่องจากประกันสะสมทรัพย์เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองยาวนาน และต้องใช้เวลามากกว่า 10 ปี ถึงจะได้รับเงินต้นคืน

ประกันออมทรัพย์ ลดหย่อนภาษี 2565 ตัวไหนดี

          สำหรับคนที่มองหาประกันออมทรัพย์เพื่อลดหย่อนภาษี ในปี 2565 ก็มีประกันที่น่าสนใจอยู่หลายบริษัท ซึ่งเรารวบรวมข้อมูลประกันออมทรัพย์ที่ให้ความคุ้มครอง 10 ปี มาเปรียบเทียบให้เห็นกัน ลองมาดูว่าเล่มไหนให้ผลตอบแทนแบบคุ้ม ๆ บ้าง

1. ประกันออมทรัพย์ ออมคุ้มคุ้ม PLUS 10/5

ประกันชีวิต

ภาพจาก : เคดับบลิวไอ ประกันชีวิต

          ประกันออมทรัพย์ ออมคุ้มคุ้ม PLUS 10/5 จากเคดับบลิวไอ ประกันชีวิต ส่งเบี้ยประกัน 5 ปี คุ้มครองชีวิตยาว 10 ปี โดยในช่วงสิ้นปีกรมธรรม์ที่ 7-9 จะได้รับเงินคืน 5% ของทุนประกัน (จำนวนเงินเอาประกันภัย) ที่ทำไว้ และเมื่อครบกำหนดสัญญา 10 ปี จะได้รับเงินคืน 540% ของทุนประกัน

ตัวอย่าง เพศชาย อายุ 30 ปี เลือกทุนประกัน 50,000 บาท

  • จ่ายเบี้ยปีละ 45,000 บาท รวม 5 ปี ต้องจ่ายเบี้ยประกัน 225,000 บาท 
  • ปีที่ 7-9 รับเงินคืนปีละ 5% ของทุนประกัน 50,000 บาท จึงได้รับเงินคืนปีละ 2,500 บาท รวม 3 ปี คือ 7,500 บาท
  • ปีที่ 10 ครบกำหนด รับเงินก้อนคืน 540% ของทุนประกัน 50,000 บาท เท่ากับ 270,000 บาท
  • รวมรับเงินคืนทั้งหมด 277,500 บาท จากเบี้ยที่จ่ายไป 225,000 บาท จึงได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น 52,500 บาท
  • คิดเป็นอัตราผลตอบแทนภายในกรมธรรม์ (IRR) เท่ากับ 2.67% (ยังไม่รวมเงินที่นำไปลดหย่อนภาษี)

สรุปข้อมูลประกันออมทรัพย์ ออมคุ้มคุ้ม PLUS 10/5

  • อายุรับประกัน : 1 เดือน 1 วัน – 65 ปี
  • จำนวนเงินเอาประกันภัย : 35,000-1,000,000 บาท
  • ระยะเวลาเอาประกันภัย : 10 ปี
  • ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย : 5 ปี (ลดหย่อนภาษีได้ 5 ปี ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินปีละ 100,000 บาท)
  • ผลประโยชน์เงินคืน : 
    • สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 7-9 รับเงินคืน 5% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
    • สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 10 รับเงินคืน 540% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
  • ผลประโยชน์กรณีเสียชีวิต : 
    • ปีกรมธรรม์ที่ 1 : คุ้มครอง 111% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
    • ปีกรมธรรม์ที่ 2 : คุ้มครอง 222% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
    • ปีกรมธรรม์ที่ 3 : คุ้มครอง 333% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
    • ปีกรมธรรม์ที่ 4 : คุ้มครอง 444% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
    • ปีกรมธรรม์ที่ 5-10 : คุ้มครอง 555% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

          ข้อมูลเพิ่มเติม : เคดับบลิวไอ ประกันชีวิต

2. ประกันออมทรัพย์ คุ้มสุข เต็มสิบ 10/5

ประกันชีวิต

ภาพจาก : อาคเนย์ประกันชีวิต

          ประกันออมทรัพย์ คุ้มสุข เต็มสิบ 10/5 จากอาคเนย์ประกันชีวิต เป็นประกันชีวิตที่จ่าย 5 ปี คุ้มครอง 10 ปี มีจุดเด่นตรงที่สามารถเลือกทุนประกันต่ำสุดได้ที่ 30,000 บาท และจะได้รับเงินคืน 5% ทุกสิ้นปีกรมธรรม์ ในขณะที่ปีสุดท้ายจะรับเงินครบกำหนดสัญญา 250% ของทุนประกัน

ตัวอย่าง เพศชาย อายุ 30 ปี เลือกทุนประกัน 50,000 บาท

  • จ่ายเบี้ยปีละ 25,000 บาท เป็นเวลา 5 ปี รวมเป็นเงิน 125,000 บาท
  • ปีที่ 1-10 รับเงินคืนปีละ 5% ของทุนประกัน 50,000 บาท จึงได้รับเงินคืนปีละ 2,500 บาท รวม 10 ปี คือ 25,000 บาท
  • ปีที่ 10 ครบกำหนด รับเงินคืน 250% ของทุนประกัน 50,000 บาท เท่ากับ 125,000 บาท
  • รวมรับเงินคืนทั้งหมด 150,000 บาท จากเบี้ยที่จ่ายไป 125,000 บาท ดังนั้นจะได้ผลตอบแทน 25,000 บาท
  • คิดเป็นอัตราผลตอบแทนภายในกรมธรรม์ (IRR) เท่ากับ 2.56% (ยังไม่รวมเงินที่นำไปลดหย่อนภาษี)

สรุปข้อมูลประกันออมทรัพย์ คุ้มสุข เต็มสิบ 10/5

  • อายุรับประกัน : 30 วัน – 65 ปี
  • จำนวนเงินเอาประกันภัย : ขั้นต่ำ 30,000 บาท
  • ระยะเวลาเอาประกันภัย : 10 ปี
  • ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย : 5 ปี (ลดหย่อนภาษีได้ 5 ปี ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินปีละ 100,000 บาท)
  • ผลประโยชน์เงินคืน : 
    • สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1-10 รับเงินคืน 5% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
    • สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 10 รับเงินครบกำหนดสัญญาอีก 250% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
  • ผลประโยชน์กรณีเสียชีวิต : 
    • ปีกรมธรรม์ที่ 1 : คุ้มครอง 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
    • ปีกรมธรรม์ที่ 2 : คุ้มครอง 110% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
    • ปีกรมธรรม์ที่ 3 : คุ้มครอง 165% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
    • ปีกรมธรรม์ที่ 4 : คุ้มครอง 220% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
    • ปีกรมธรรม์ที่ 5-10 : คุ้มครอง 275% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

          ข้อมูลเพิ่มเติม : อาคเนย์ประกันชีวิต

3. ประกันออมทรัพย์ แม็กซ์ เท็น วัน 10/1

ประกันชีวิต

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก ฟิลลิปประกันชีวิต PhillipLife

          ใครอยากจ่ายเบี้ยแค่ปีเดียว แต่คุ้มครองนานถึง 10 ปี ลองดูประกันออมทรัพย์แม็กซ์ เท็น วัน 10/1 ของฟิลลิปประกันชีวิต โดยจะมีเงินคืนรายปีให้ 1% ของทุนประกัน เมื่อครบสัญญาสิ้นปีที่ 10 รับเงินคืน 101% ของทุนประกัน

ตัวอย่าง เพศชาย อายุ 30 ปี เลือกทุนประกัน 50,000 บาท

  • จ่ายเบี้ยปีละ 45,100 บาท ปีเดียว
  • ปีที่ 1-9 รับเงินคืนปีละ 1% ของทุนประกัน 50,000 บาท จึงได้รับเงินคืนปีละ 500 บาท รวม 9 ปี คือ 4,500 บาท
  • ปีที่ 10 ครบกำหนด รับเงินคืน 101% ของทุนประกัน 50,000 บาท เท่ากับ 50,500 บาท
  • รวมรับเงินคืนทั้งหมด 55,000 บาท จากเบี้ยที่จ่ายไป 45,100 บาท ดังนั้นจะได้ผลตอบแทน 9,900 บาท
  • คิดเป็นอัตราผลตอบแทนภายในกรมธรรม์ (IRR) เท่ากับ 2.10% (ยังไม่รวมเงินที่นำไปลดหย่อนภาษี)

สรุปข้อมูลประกันออมทรัพย์ แม็กซ์ เท็น วัน 10/1

  • อายุรับประกัน : 1 วัน – 65 ปี
  • จำนวนเงินเอาประกันภัย : 50,000-10,000,000 บาท
  • ระยะเวลาเอาประกันภัย : 10 ปี
  • ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย : 1 ปี (ลดหย่อนภาษีได้ 1 ปี ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินปีละ 100,000 บาท)
  • ผลประโยชน์เงินคืน : 
    • สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1-9 รับเงินคืน 1% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
    • สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 10 รับเงินคืน 101% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
  • ผลประโยชน์กรณีเสียชีวิต : คุ้มครอง 110% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

          ข้อมูลเพิ่มเติม : ฟิลลิปประกันชีวิต

4. ประกันออมทรัพย์ เอไอเอ ไอเซฟ (5Pay10)

ประกันชีวิต

ภาพจาก : เอไอเอ

          ค่ายใหญ่อย่าง เอไอเอ ก็มีประกันสะสมทรัพย์ 10 ปี ชำระเบี้ย 5 ปี ที่ให้ผลตอบแทนสูงเช่นกัน โดยจะได้รับเงินคืนปีละ 4% ของทุนประกันในปีที่ 2-9 และเมื่อครบสัญญาจะได้รับเงิน 468% ของทุนประกัน

ตัวอย่าง เพศชาย อายุ 30 ปี เลือกทุนประกัน 57,471.26 บาท

  • จ่ายเบี้ยปีละ 50,000 บาท เป็นเวลา 5 ปี รวมจ่ายเบี้ยประกัน 250,000 บาท
  • ปีที่ 2-9 รับเงินคืนปีละ 4% ของทุนประกัน 57,471.26 บาท จึงได้รับเงินคืนปีละ 2,298.85 บาท รวม 8 ปี คือ 18,390.80 บาท
  • ปีที่ 10 ครบกำหนด รับเงินคืน 468% ของทุนประกัน 57,471.26 บาท เท่ากับ 268,965.50 บาท
  • รวมรับเงินคืนทั้งหมด 287,356.30 บาท จากเบี้ยที่จ่ายไป 250,000 บาท ดังนั้นจะได้ผลตอบแทน 37,356.30 บาท
  • คิดเป็นอัตราผลตอบแทนภายในกรมธรรม์ (IRR) เท่ากับ 1.83% (ยังไม่รวมเงินที่นำไปลดหย่อนภาษี)

สรุปข้อมูลประกันออมทรัพย์ เอไอเอ ไอเซฟ (5Pay10)

  • อายุรับประกัน : 20-55 ปี
  • จำนวนเงินเอาประกันภัย : 20,000-50,000 บาท
  • ระยะเวลาเอาประกันภัย : 10 ปี
  • ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย : 5 ปี (ลดหย่อนภาษีได้ 5 ปี ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินปีละ 100,000 บาท)
  • ผลประโยชน์เงินคืน : 
    • สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 2-9 รับเงินคืน 4% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
    • สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 10 รับเงินครบกำหนดสัญญาอีก 468% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
  • ผลประโยชน์กรณีเสียชีวิต : 
    • ปีกรมธรรม์ที่ 1 : คุ้มครอง 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
    • ปีกรมธรรม์ที่ 2 : คุ้มครอง 200% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
    • ปีกรมธรรม์ที่ 3 : คุ้มครอง 300% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
    • ปีกรมธรรม์ที่ 4 : คุ้มครอง 400% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
    • ปีกรมธรรม์ที่ 5-10 : คุ้มครอง 500% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

          ข้อมูลเพิ่มเติม : เอไอเอ

5. ประกันสะสมทรัพย์ออนไลน์ อีซี่ อี-เซฟ 10/5

ประกันชีวิต

ภาพจาก : เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต

          ประกันสะสมทรัพย์ออนไลน์ อีซี่ อี-เซฟ 10/5 จาก FWD เป็นประกันอีกหนึ่งตัวที่ให้ผลตอบแทน IRR อยู่ที่ 1.65% โดยจ่ายเบี้ย 5 ปี คุ้มครอง 10 ปี แล้วจะได้รับเงินคืนทุกปี ปีละ 4-5% เมื่อครบกำหนดจะได้เงินคืน 350% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

ตัวอย่าง เพศชาย อายุ 30 ปี เลือกทุนประกัน 50,000 บาท

  • จ่ายเบี้ยปีละ 34,510 บาท เป็นเวลา 5 ปี รวมจ่ายเบี้ยประกัน 172,550 บาท
  • ปีที่ 1-5 รับเงินคืนปีละ 4% ของทุนประกัน 50,000 บาท จึงได้รับเงินคืนปีละ 2,000 บาท รวม 5 ปี คือ 10,000 บาท
  • ปีที่ 6-9 รับเงินคืนปีละ 5% ของทุนประกัน 50,000 บาท จึงได้รับเงินคืนปีละ 2,500 บาท รวม 4 ปี คือ 10,000 บาท
  • ปีที่ 10 ครบกำหนด รับเงินคืน 350% ของทุนประกัน 50,000 บาท เท่ากับ 175,000 บาท
  • รวมรับเงินคืนทั้งหมด 195,000 บาท จากเบี้ยที่จ่ายไป 172,550 บาท ดังนั้นจะได้ผลตอบแทน 22,450 บาท
  • คิดเป็นอัตราผลตอบแทนภายในกรมธรรม์ (IRR) เท่ากับ 1.65% (ยังไม่รวมเงินที่นำไปลดหย่อนภาษี)

สรุปข้อมูลประกันสะสมทรัพย์ออนไลน์ อีซี่ อี-เซฟ 10/5

  • อายุรับประกัน : 20-60 ปี
  • จำนวนเงินเอาประกันภัย : 20,000-400,000 บาท
  • ระยะเวลาเอาประกันภัย : 10 ปี
  • ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย : 5 ปี (ลดหย่อนภาษีได้ 5 ปี ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินปีละ 100,000 บาท)
  • ผลประโยชน์เงินคืน : 
    • สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1-5 รับเงินคืน 4% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
    • สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 6-9 รับเงินคืน 5% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
    • สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 10 รับเงินครบกำหนดสัญญาอีก 350% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
  • ผลประโยชน์กรณีเสียชีวิต : 
    • ปีกรมธรรม์ที่ 1 : คุ้มครอง 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
    • ปีกรมธรรม์ที่ 2 : คุ้มครอง 140% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
    • ปีกรมธรรม์ที่ 3 : คุ้มครอง 210% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
    • ปีกรมธรรม์ที่ 4 : คุ้มครอง 280% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
    • ปีกรมธรรม์ที่ 5-10 : คุ้มครอง 350% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

          ข้อมูลเพิ่มเติม : เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต

6. ประกันออมทรัพย์ พรูเซฟวิงส์ พลัส 10/4

ประกันชีวิต

ภาพจาก : พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต

          ฝั่งพรูเด็นเชียล ประกันชีวิต ก็มีประกันออมทรัพย์ที่ให้ความคุ้มครอง 10 ปี เช่นกัน โดยตัวที่ให้ผลตอบแทนน่าสนใจคือ พรูเซฟวิงส์ พลัส 10/4 ส่งเบี้ยประกัน 4 ปี รับเงินคืนทุกปี ปีละ 5% และปีสุดท้ายจะได้เงินก้อน 410% ของทุนประกันภัย

ตัวอย่าง เพศชาย อายุ 30 ปี เลือกทุนประกัน 50,000 บาท

  • จ่ายเบี้ยปีละ 50,000 บาท เป็นเวลา 4 ปี รวมจ่ายเบี้ยประกัน 200,000 บาท
  • ปีที่ 1-9 รับเงินคืนปีละ 5% ของทุนประกัน 50,000 บาท จึงได้รับเงินคืนปีละ 2,500 บาท รวม 9 ปี คือ 22,500 บาท
  • ปีที่ 10 ครบกำหนด รับเงินคืน 410% ของทุนประกัน 50,000 บาท เท่ากับ 205,000 บาท
  • รวมรับเงินคืนทั้งหมด 227,500 บาท จากเบี้ยที่จ่ายไป 200,000 บาท ดังนั้นจะได้ผลตอบแทน 27,500 บาท
  • คิดเป็นอัตราผลตอบแทนภายในกรมธรรม์ (IRR) เท่ากับ 1.63% (ยังไม่รวมเงินที่นำไปลดหย่อนภาษี)

สรุปข้อมูลประกันออมทรัพย์ พรูเซฟวิงส์ พลัส 10/4 

  • อายุรับประกัน : 20-65 ปี
  • จำนวนเงินเอาประกันภัย : 10,000-200,000 บาท
  • ระยะเวลาเอาประกันภัย : 10 ปี
  • ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย : 4 ปี (ลดหย่อนภาษีได้ 4 ปี ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินปีละ 100,000 บาท)
  • ผลประโยชน์เงินคืน : 
    • สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1-9 รับเงินคืน 5% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
    • สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 10 รับเงินครบกำหนดสัญญาอีก 410% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
  • ผลประโยชน์กรณีเสียชีวิต : 
    • ปีกรมธรรม์ที่ 1 : คุ้มครอง 101% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
    • ปีกรมธรรม์ที่ 2 : คุ้มครอง 202% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
    • ปีกรมธรรม์ที่ 3 : คุ้มครอง 303% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
    • ปีกรมธรรม์ที่ 4-10 : คุ้มครอง 404% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

          ข้อมูลเพิ่มเติม : พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต

7. ประกันออมทรัพย์ บีแอลเอ สมาร์ทเซฟวิ่ง 10/1

ประกันชีวิต

ภาพจาก : กรุงเทพประกันชีวิต

          บีแอลเอ สมาร์ทเซฟวิ่ง 10/1 เป็นประกันออมทรัพย์จากกรุงเทพประกันชีวิต ให้ความคุ้มครอง 10 ปี เหมาะกับคนที่อยากชำระเบี้ยเพียงครั้งเดียว รับเงินคืนทุกปี ปีละ 1.75% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย และเมื่อครบสัญญารับเงินคืน 100%

ตัวอย่าง เพศชาย อายุ 30 ปี เลือกทุนประกัน 50,000 บาท

  • จ่ายเบี้ยปีละ 50,000 บาท ปีเดียว
  • ปีที่ 1-10 รับเงินคืนปีละ 1.75% ของทุนประกัน 50,000 บาท จึงได้รับเงินคืนปีละ 875 บาท รวม 10 ปี คือ 8,750 บาท
  • ปีที่ 10 ครบกำหนด รับเงินคืน 100% ของทุนประกัน 50,000 บาท เท่ากับ 50,000 บาท
  • รวมรับเงินคืนทั้งหมด 58,750 บาท จากเบี้ยที่จ่ายไป 50,000 บาท ดังนั้นจะได้ผลตอบแทน 8,750 บาท
  • คิดเป็นอัตราผลตอบแทนภายในกรมธรรม์ (IRR) เท่ากับ 1.59% (ยังไม่รวมเงินที่นำไปลดหย่อนภาษี)

สรุปข้อมูลประกันออมทรัพย์ บีแอลเอ สมาร์ทเซฟวิ่ง 10/1

  • อายุรับประกัน : 20-75 ปี
  • จำนวนเงินเอาประกันภัย : 50,000-5,000,000 บาท
  • ระยะเวลาเอาประกันภัย : 10 ปี
  • ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย : 1 ปี (ลดหย่อนภาษีได้ 1 ปี ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินปีละ 100,000 บาท)
  • ผลประโยชน์เงินคืน : 
    • สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1-10 รับเงินคืน 1.75% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
    • สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 10 รับเงินครบกำหนดสัญญาอีก 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
  • ผลประโยชน์กรณีเสียชีวิต : คุ้มครอง 110% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

          ข้อมูลเพิ่มเติม : กรุงเทพประกันชีวิต

8. ประกันออมทรัพย์ โตเกียว แฮปปี้ เซฟวิ่ง 10/5

ประกันชีวิต

ภาพจาก : โตเกียวมารีนประกันชีวิต

          ปิดท้ายที่ประกันออมทรัพย์ โตเกียว แฮปปี้ เซฟวิ่ง 10/5 จากโตเกียวมารีนประกันชีวิต ที่คล้ายกับประกันออมทรัพย์ 10/5 ของค่ายอื่น ๆ แตกต่างตรงที่ทุนประกันขั้นต่ำเริ่มต้นที่ 100,000 บาท จ่าย 5 ปี รับเงินคืนปีละ 5% เมื่อครบสัญญาจะได้เงินก้อน 510% ของทุนประกัน

ตัวอย่าง เพศชาย อายุ 30 ปี เลือกทุนประกัน 100,000 บาท

  • จ่ายเบี้ยปีละ 100,000 บาท เป็นเวลา 5 ปี รวม 500,000 บาท
  • ปีที่ 1-9 รับเงินคืนปีละ 5% ของทุนประกัน 100,000 บาท จึงได้รับเงินคืนปีละ 5,000 บาท รวม 10 ปี คือ 50,000 บาท
  • ปีที่ 10 ครบกำหนด รับเงินคืน 510% ของทุนประกัน 100,000 บาท เท่ากับ 510,000 บาท
  • รวมรับเงินคืนทั้งหมด 555,555 บาท จากเบี้ยที่จ่ายไป 500,000 บาท ดังนั้นจะได้ผลตอบแทน 55,555 บาท
  • คิดเป็นอัตราผลตอบแทนภายในกรมธรรม์ (IRR) เท่ากับ 1.39% (ยังไม่รวมเงินที่นำไปลดหย่อนภาษี)

สรุปข้อมูลประกันออมทรัพย์ โตเกียว แฮปปี้ เซฟวิ่ง 10/5

  • อายุรับประกัน : 0-70 ปี
  • จำนวนเงินเอาประกันภัย : ขั้นต่ำ 100,000 บาท
  • ระยะเวลาเอาประกันภัย : 10 ปี
  • ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย : 5 ปี (ลดหย่อนภาษีได้ 5 ปี ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินปีละ 100,000 บาท)
  • ผลประโยชน์เงินคืน : 
    • สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1-9 รับเงินคืน 5% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
    • สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 10 รับเงินครบกำหนดสัญญาอีก 510% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
  • ผลประโยชน์กรณีเสียชีวิต :  
    • ปีกรมธรรม์ที่ 1 : คุ้มครอง 110% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
    • ปีกรมธรรม์ที่ 2 : คุ้มครอง 220% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
    • ปีกรมธรรม์ที่ 3 : คุ้มครอง 330% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
    • ปีกรมธรรม์ที่ 4 : คุ้มครอง 440% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
    • ปีกรมธรรม์ที่ 5-10 : คุ้มครอง 550% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

          ข้อมูลเพิ่มเติม : โตเกียวมารีนประกันชีวิต

ประกันชีวิต

           ทั้งนี้ ก่อนตัดสินใจทำประกันควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครอง ข้อยกเว้น และเงื่อนไขต่าง ๆ ให้ชัดเจน เพื่อจะได้ใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี พร้อมกับรับความคุ้มครองจากประกันภัยได้อย่างเต็มที่

บทความที่เกี่ยวข้องกับลดหย่อนภาษี และประกัน

  • ประกันสุขภาพเหมาจ่ายที่ไหนดี ปี 2565 เปรียบเทียบแผนค่ารักษา 1 ล้านบาท
  • เทคนิคเลือกซื้อประกันสุขภาพ ให้ได้ลดหย่อนภาษี
  • เช็กลิสต์ ! เรื่องอะไรต้องคิด ก่อนทำประกันสุขภาพ
  • ลดหย่อนภาษี 2565 มีอะไรบ้าง คำนวณให้ดี ก่อนยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, เคดับบลิวไอ ประกันชีวิต, 
ฟิลลิปประกันชีวิต, เฟซบุ๊ก ฟิลลิปประกันชีวิต PhillipLife, อาคเนย์ประกันชีวิต, เอไอเอ, พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต, เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต, โตเกียวมารีนประกันชีวิต

ขอบคุณบทความจาก : Kapook.com