in

หลังจากแต่งงาน พ่อแม่สามีมาบงการชีวิตครอบครัวกันบ้างไหมค้ะ?

เราคิดมาตั้งนาน ตั้งกระทู้นี้เลยดีไหม??
ถึงวันนี้เราอึดอัดและอยากระบาย
เราระบายกับใครไม่ได้
นอกจากโลกของพันธุ์ทิพย์แล้วยังเก็บความรู้สึกไว้คนเดียว อมยิ้ม 07อมยิ้ม 07

เรามาเริ่มกันเลย ฉันกับแฟนเพิ่งแต่งงานกันหนึ่งปี เราอายุ 30 และแฟนสาวอายุ 24 ปี ก่อนหน้านั้นเราคบกัน ทั้งพ่อและแม่รู้และรู้จักกันมาตลอด จากนั้นลูกๆ ของเขาก็ถูกพ่อแม่เลี้ยงดูมาจนวันหนึ่งเราคุยกันเรื่องการสร้างอนาคตร่วมกัน เลยตัดสินใจแต่งงาน

เป็นความจริงที่การแต่งงานไม่ใช่จุดจบของความรัก เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความรัก
เราสองคนไปกันต่อ จนเมื่อปลายปีที่แล้ว แม่ของแฟนโทรมาบอกว่าแฟนเราลงไปช่วยงานบ้าน เพราะแฟนๆรอการออกจากกองทัพเราคือครู เขาเลยอยากให้แฟนเราลงไปช่วยที่บ้าน ที่บ้านแฟนของฉันทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง แฟนสาวถามเรา
ทำอย่างไร พระองค์ทรงห่วงใยเรา หากเราต้องอยู่ห่างไกลกัน เราจึงปรึกษาพ่อแม่ของเรา พ่อแม่ให้เราตัดสินใจเอง เราเลยลาออกจากการเป็นครูผู้สอนที่ได้รับค่าจ้าง ออกจากบ้านเกิด บอกลาพี่น้องของเรา เพื่อค้นหาอนาคตและประสบการณ์ใหม่ๆ ที่จะมาถึง

ใช่มันเป็นประสบการณ์ใหม่จริงๆ เรามาที่บ้านของเขาแต่เช้าตรู่ พ่อแม่ของเขาดูเหมือนไม่มาก
ตกลงกับเรายังไง? บอกว่าไม่มีเงินสักบาท เราจะมาที่นี่ได้อย่างไร? ใช่ เราให้เขาเห็นว่าเราไม่มีเงิน เพียงเพราะเราแค่อยากลองวัดว่าเขาจะทำอะไรกับเราบ้าง อยู่ช่วงแรกๆ อึดอัดมาก เราช่วยงานบ้าน งานสวน
เราทำเกือบทุกอย่างที่ทำได้
แต่แม่แฟนไม่ให้แฟนมาช่วยเรา จะโทรหาแฟนให้นวดให้ ดูแลการนั่งข้างคุณตลอดเวลา จนบางทีเราแอบนั่งร้องไห้ แต่เราไม่อยากท้อ แค่คิดว่าเราออกมาแล้วชีวิตก็ต้องไปให้สุด
เราพยายามพิสูจน์ตัวเองว่าเราทำได้
ไม่เป็นไรเราเข้มแข็งพอ

ตอนอยู่บ้านแฟนเราก็ขายออนไลน์ ใช้เวลาสักพักหลังจากช่วยงานสวนเพื่อส่งสินค้า ดังนั้นเราจึงมีเงินเพียงพอที่จะออมมากขึ้น
แต่ ณ จุดนี้ทำให้เราได้พบกับประสบการณ์ที่เรายังคงนั่งทบทวนมาจนถึงทุกวันนี้
มันคืออะไร??

แม่ของแฟนเริ่มให้เรารับผิดชอบค่าบ้าน ค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟ และทุกบิล
บางครั้งเราต้องจ่ายเงินเดือนให้ลูกน้องแทน บางครั้งการใช้รถไปไหนมาไหนให้เราเติมน้ำมัน เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ไม่ใช่แค่รถของคุณเอง
แพร่กระจายไปยังรถของลูกน้องด้วย ที่นี่แฟน ๆ ของเราเริ่มตระหนักว่าเราไม่โอเคกับเรื่องแบบนี้ หลายครั้งเราทนไม่ได้ เราเลยบอกแฟนว่าเราไม่เป็นไร เราเหนื่อยที่ต้องแบกรับภาระแทนทุกคน แฟนเราเข้าใจ แต่แม่ของแฟนบอกต่อหน้าเรากับแฟนว่าถ้าเหนื่อยก็ไม่เป็นไร ดีที่นี่ออกไปและกลับบ้าน !!!

เราตกใจมาก แฟนเราเริ่มหน้าแดง ด้วยความสงสารแฟน เราอดทนมาตลอด ก็เลยตัดสินใจไปทำงานเต็มเวลา แต่แม่แฟนไม่ให้ลูกชายออกไปทำงาน ให้เราทำงานหาเลี้ยงครอบครัวและแฟนสาวของเรา
แค่รอรับลูกชายของเขา ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ยอมให้เงินเดือนแฟนเราทุกเดือน แต่ความจริงคือ พอมานี่มันไม่ใช่แบบนั้น เรามักหาเงินคนเดียวและชอบให้แฟนมายืมเรา ตัวเก่ายังไม่ได้ใช้ จะเอาของใหม่มาลงใหม่ครับLollipop 11Lollipop 11

ตลอดเวลาที่บ้านแฟนเรา เราเป็นคนดูแลทุกอย่าง เกี่ยวกับอาหารใช้ในบ้าน เราทำเพื่อทุกคน รวมถึงลูกน้องด้วย เวลาซื้อของแทบทุกคนจะซื้อเป็นของฝาก แต่มันตรงกันข้าม เมื่อแม่ของแฟนออกไปซื้อของกินที่บ้าน เช่น บะหมี่ เขาจะซื้อไปแจกทุกคน ยกเว้นเราเสมอ ตอนแรกเราคิดว่าไม่เป็นไร ไม่เสียใจแต่หลายครั้งเรารู้สึกประหม่าเล็กน้อย
บางทีแม่ของเขาทำอาหาร เขาทำกันในครอบครัวเท่านั้น ไม่เคยสำหรับเราแม้แต่ครั้งเดียว
ที่เรารู้เพราะเวลาเราเลิกสาย
เขามักจะใส่จานที่เขาทำไว้ในถังขยะ
หรือบางทีแฟน ๆ ของเราอาจจะรู้ว่าแฟน ๆ รู้สึกผิดต่อเรา เราเลยซื้อมันเข้ามา จะช่วยขจัดปัญหาที่เราไม่ค่อยได้ทำอาหารในความมืดหลังจากกลับจากทำงานเพราะเรามีประสบการณ์มาแล้ว เขาบอกว่าเขาจะนอน เขามีกลิ่นฉุนของอาหารที่เราทำ ครั้งหนึ่งเราผัดกะเพรา แม่ของแฟนโกรธมากจึงเดินออกไปหยิบกระทะของเราโยนลงถังขยะ ฉันกับแฟนยืนงงอยู่ตรงนั้น อมยิ้ม 42อมยิ้ม 42อมยิ้ม 42

เราทนอยู่ได้ 8 เดือน เลยตัดสินใจเช่าห้องข้างนอกกับแฟน เพราะหลายๆ เรื่องเราสามารถอยู่หอได้ 2 เดือน เลยตัดสินใจกลับบ้าน แฟนเราก็ลงมาด้วย เราจึงกลับมาร่วมงานกัน

เหมือนจะจบลงอย่างมีความสุข แต่ก็ไม่ใช่
แม่แฟนยังโทรมาแทบทุกวัน โทรไปขอเงิน ขอความช่วยเหลือเรื่องการเงินแทบทุกวัน โทรสอบถามค่าเล่าเรียนให้น้องๆ ขายบ้างค่ะ พาลูกชายมาอ้างว่าอยากได้ไอโฟน ถึงแม้ลูกจะอายุแค่ 7 ขวบ แต่ถึงตอนสุดท้ายที่เราเผชิญหน้ากันแทบทุกวันคือการขอเงินคืนเรื่องเงินและสินสอดทองหมั้นที่แต่งกับเรา แต่แฟน ๆ ของเราค่อนข้างเข้าใจเรา อ้างว่าเขาเป็นหนี้เงินเราวันนี้เพราะเขาแต่งงานกับเรา ให้แฟนของเราลงไปและกลับบ้านอีกครั้ง ห้ามเราสองคนมีลูกเพราะกลัวว่าแฟนของเราจะทิ้งลูกชายของเขา แต่เราไม่ยอมรับสิ่งนี้ เราสามารถรั้น เพราะสุดท้ายเราก็ต้องการสร้างครอบครัวของเราเองด้วย

ยังคงเป็นปัญหาที่แก้ไม่ได้ เราสามารถระบายให้กับตัวเองและในกระทู้นี้เท่านั้น
ซึ่งเป็นหัวข้อแรก เราอยากจะบอกว่าปัญหาของแม่ผัว ลูกสะใภ้มีอยู่จริง อยากบอกคนที่ยังไม่ได้แต่งงานให้ศึกษาข้อมูลครอบครัวก่อน ก่อนตัดสินใจเหมือนเรา เพราะถ้าตัดสินใจไปแล้ว มันยากมากที่จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม

ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ ในที่สุดเราก็ได้ตัดสินใจด้วยตัวเองแล้ว ถ้าแฟนจะไปเราจะปล่อยให้ขึ้นคนเดียว แต่เราจะไม่ขอขึ้นอีก เพราะกลับรู้ว่าปัญหายังคงเหมือนเดิม หรืออาจจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ

ขอบคุณสำหรับเขตความสะดวกสบายนี้
และเพื่อนๆที่ฟังมินิฮาร์ท

.