ในช่วงปี พ.ศ. 2520 อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยได้พัฒนารูปลักษณ์ทางเทคนิคให้น่าสนใจยิ่งขึ้น และประเภทของหนังก็มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็เปิดรับผู้สนใจรุ่นใหม่มาร่วมสร้างสรรค์ผลงานจนเป็นที่ยอมรับจากผู้ชมที่เป็นสปอนเซอร์
ในบรรดาผู้สร้างภาพยนตร์หน้าใหม่ มีชายคนหนึ่งที่เติบโตขึ้นมาและหลงใหลในศิลปะของภาพยนตร์ตั้งแต่อายุยังน้อย การทำงานในภาพยนตร์ที่หลากหลาย จนได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นโปรดิวเซอร์และผู้กำกับที่มีชื่อเสียงติดอันดับต้นๆ ของรายการ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะให้ความบันเทิง ผ่านการต่อสู้แห่งความสำเร็จและความล้มเหลวตามเงื่อนไข
เรากำลังพูดถึงบรรพบุรุษคนนี้ชื่อ “ประยูร วงษ์ชื่น”
ประยูรเริ่มเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับภาพยนตร์เรื่องแรก “พ่อตากันโต๊ะ” ในปี 2519 (เข้าฉายในปี 2520) “อย่าแซวฉลาม” หลังสร้างหนังในนามบริษัท นภาพร โปรดักชั่น กับ เรื่อง “ดอน ตุ้ม กัน ตาล”
ในปี พ.ศ. 2522 ได้เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท พีทีเค โปรดักชั่น โดยหันไปสร้างหนังไสยศาสตร์ เริ่มต้นด้วยเรื่อง “ตะเคียนโขนง” “ลูกกลมคนอง” สู่เรื่อง “แววเสียงนางไพร” ซึ่งผลงานของประยูรในระยะแรกได้รับมอบหมายให้ “ระสัง ทัศน์พยัคฆ์” เป็นผู้กำกับ ทุกการแสดง
จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน ประยูรตัดสินใจก้าวสู่การเป็นผู้กำกับภาพยนตร์เต็มเวลา “พ่อเขยจิ๊กโก๋” ในปี 1983 และเรื่องราวอีกมากมายตามมา
แต่ผลงานของผู้กำกับที่สร้างชื่อจนกลายเป็นสัญลักษณ์ของประยูร เห็นว่าเป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับ “ทหาร” ที่ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบตลกขบขัน นั่นคือเรื่องราว “กองพันทหารเกณฑ์”, “กองพันทหารใหม่”, “ศตวรรษสอยดาว”, “กองพันทหารเกณฑ์กิ๊บกับ” และ “กองพันทหารเกณฑ์ที่ 12”
นอกจากนี้ยังสร้างและกำกับซีรีส์ภาพยนตร์ระทึกขวัญในซีรีส์เดียวกันโดยเริ่มจาก “It’s Hiding in the Tower”, “It Pops Up” และ “It Rises Up to Beg”
รวมถึงผลงานที่ภูมิใจในชีวิตการทำงานของประยูรมากที่สุด เช่น “Time in a Bottle” ซึ่งเป็นเรื่องราวสะท้อนปัญหาสังคมและครอบครัวในช่วงปี พ.ศ. 2516-2519 ส่งผลให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลผลงานยอดเยี่ยมจากหลายสถาบัน
ในปี 2539 ประยูรตัดสินใจยุติการผลิตและกำกับภาพยนตร์เนื่องจากความผันผวนของอุตสาหกรรม เพื่อเน้นเป็นผู้กำกับละครโทรทัศน์ โดยหยิบเอาหนังที่ประสบความสำเร็จมาดัดแปลงเป็นละครด้วยเรื่อง “กองพันทหารกองร้อย” ออกอากาศทางช่อง 5
จากนั้นเขาก็เปิดบริษัทผลิตละครของตัวเองในชื่อ “โชวอิน” โดยประยูรผลิตและกำกับละครหลายสิบเรื่อง ทั้งละครที่สร้างจากภาพยนตร์ที่สร้างจากนวนิยายและสร้างเรื่องใหม่ ออกอากาศทางช่อง 7 สี
ปัจจุบันนี้ไม่ค่อยเห็นข่าวคราวการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นต่อไปของประยูร แต่เจอข่าวด้วยความเป็นห่วงเพราะตอนนี้ป่วยหนัก อยู่ในขั้นตอนการรักษา
เราจึงขอส่งกำลังใจให้ไอรอนแมนของวงการหนังไทยชื่อ “ประยูร วงษ์ชื่น” ให้กลับมาใช้ชีวิตคู่ในวงการบันเทิงไปจนหมดลม
ในระหว่างนี้ เราอยากจะระลึกถึงผลงานภาพยนตร์ทั้งหมดของเขาตามที่ปรากฏ หากผู้อ่านท่านใดเห็นว่าผลงานชิ้นใดของเขายังขาดหายไป โปรดเพิ่มข้อมูลให้ครบถ้วน…
หรือถ้าชอบหรือคิดถึงหนังเรื่องไหนของเขามากที่สุด…ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ เรากำลังรอที่จะได้ยินจากทุกคน
























.