ครม. อนุมัติ ปรับสิทธิประโยชน์กองทุนประกันสังคม ขอเลือก – ขอคืน – ขอกู้ สามารถนำเงินกรณีชราภาพบางส่วนออกมาใช้ก่อน หรือเป็นหลักค้ำประกันการกู้เงินสถาบันการเงินได้
วันที่ 10 พฤษภาคม 2565 มติคณะรัฐมนตรี อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติประกันสังคม โดยเป็นการปรับปรุงแก้ไขสิทธิประโยชน์กองทุนประกันสังคม กรณีชราภาพ ให้ผู้ประกันตนสามารถนำเงินกรณีชราภาพบางส่วนออกมาใช้ก่อน (ขอเลือก ขอคืน และขอกู้) รวมทั้งการเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีอื่น ๆ รวมทั้งแก้ไขขยายอายุขั้นสูงของผู้ประกันตนที่เป็นลูกจ้าง จากเดิมอายุ 60 ปีบริบูรณ์ เป็นอายุ 65 ปีบริบูรณ์

1.
การปรับปรุงแก้ไขสิทธิประโยชน์กองทุนประกันสังคม
กรณีชราภาพให้ผู้ประกันตนสามารถนำเงินกรณีชราภาพบางส่วนออกมาใช้ก่อน
(ขอเลือก ขอคืน และขอกู้) ดังนี้
–
กรณีให้ผู้ประกันตนที่มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
สามารถเลือกรับเงินบำนาญชราภาพหรือเงินบำเหน็จชราภาพ (ขอเลือก) /
กรณีให้ผู้ประกันตนสามารถนำเงินกรณีชราภาพบางส่วนมาใช้ก่อนมีอายุครบ 55
ปีบริบูรณ์ (ขอคืน)
และกรณีให้ผู้ประกันตนสามารถนำเงินกรณีชราภาพบางส่วนไปเป็นหลักค้ำประกันการกู้เงินกับธนาคารหรือสถาบันการเงินได้
(ขอกู้)

2. การเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีอื่น
– ประโยชน์ทดแทนในกรณีทุพพลภาพเพิ่มเงินทดแทนการขาดรายได้กรณีทุพพลภาพจากร้อยละ 50 ของค่าจ้าง เป็นร้อยละ 70 ของค่าจ้าง
– ประโยชน์ทดแทนในกรณีคลอดบุตร
เพิ่มระยะเวลาในการจ่ายเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตรโดยเหมาจ่ายในอัตราครั้งละร้อยละ
50 ของค่าจ้างจากเดิมเป็นระยะเวลา 90 วันเป็นระยะเวลา 98
วันหรือระยะเวลาตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
–
ประโยชน์ทดแทนในกรณีสงเคราะห์บุตรโดยให้ผู้ประกันตนที่สิ้นสภาพการเป็นลูกจ้าง
และภายหลังการสิ้นสภาพเป็นผู้ประกันตน
ได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีสงเคราะห์บุตรต่อไปอีก 6 เดือน
ทั้งนี้การแก้ไขร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้
จะทำให้ผู้ประกันตนที่เป็นผู้สูงอายุจะได้รับความคุ้มครองภายใต้ระบบสามารถ
เลือกเข้าถึงแหล่งเงินฉุกเฉินได้เพิ่มเติมโดยใช้เงินกรณีชราภาพที่ตนจะได้รับในอนาคตเป็นเงินทุน
แต่จะทำให้ผู้ประกันตนมีหลักประกันรายได้ยามเกษียณที่ลดลง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก รัฐบาลไทย
ขอบคุณบทความจาก : Kapook.com